FBI ล่าตัว คนไทยชนแล้วหนี คร่าหนุ่ม 22 ปี ก่อนหนีกลับประเทศไทย

FBI ล่าตัว คนไทยชนแล้วหนี คร่าหนุ่ม 22 ปี ก่อนหนีกลับประเทศไทย

เจ้าหน้าที่ FBI เร่งล่าตัว คนไทยชนแล้วหนี คร่าหนุ่ม 22 ปี ก่อนที่คนร้ายหนีกลับประเทศไทย เบื้องต้นติดต่อตำรวจไทยแล้ว เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ สำนักข่าว CBS รายงานว่า เจ้าหน้าที่ FBI ในประเทศสหรัฐอเมริกากำลังล่าตัวหญิงไทยที่อาศัยในรัฐมิชิแกน ภายหลังก่อเหตุชนแล้วหนี คร่าชีวิตนักศึกษาในวันปีใหม่ที่ผ่านมา ก่อนที่หญิงคนดังกล่าวจะหนีมากบดานอยู่ในประเทศไทย

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหา ทับทิม ซู ฮาวสัน หญิงวัย 57 ปี 

หลังจากที่เธอขับรถชน นาย เบนจามิน เคเบิล หนุ่มวัย 22 ปีในช่วงเช้ามืดในวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า ฮาวสัน เป็นชาวอเมริกัน ที่ย้ายมาจากประเทศไทย หลังก่อเหตุเธอได้บอกกับคนรู้จักว่า เธอคิดว่าเธอฆ่าคนตายและเธอจะกลับประเทศไทย เมื่อคนรู้จักแนะนำให้เธอไปมอบตัวกับตำรวจ เธอก็ตอบมาว่า ไม่เอาตำรวจ ไม่เอาตำรวจ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ระบุว่าอีกด้วยว่าเขาติดต่อรัฐบาลไทยแล้ว เพื่อจะนำ ทับทิม กลับมารับโทษตามกฎหมาย โดยประเทศไทยและสหรัฐอเมริกานั้นมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน

ขณะที่พ่อของผู้ตายให้สัมภาษณ์กับ CBS และหวังว่าหญิงไทยจะทำในสิ่งที่ถูกต้องด้วยการมอบตัวกับตำรวจ โดยเขากล่าวว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ แต่ผู้คนควรจะรับผิดชอบกับการกระทำของตน การสูญเสียลูกเป็นเรื่องยากจะรับได้ แต่การเสียลูกไปโดยที่ผู้ก่อเหตุไม่แม้แต่จะเรียกรถพยาบาลหรือให้ความช่วยเหลือ มันเป็นความรู้สึกที่เลวร้าย และทำให้เขาสูญเสียศรัทธาในตัวมนุษย์

สยอง พบศพโครงกระดูก ในสภาพผูกคอกับบันไดบ้าน คาดเป็นของน้องชายที่บอกไปทำงานต่างประเทศ หลังคาดการติดต่อไป 4-5 ปี พ.ต.ท.ปรีดา มะเดื่อ สว.(สอบสวน) สน.คลองตัน ได้รับแจ้งเหตุว่าพบผู้เสียชีวิตภายในบ้านหลังหนึ่งใน ย่านซอยศรีนครินทร์ 24 ถนนศรีนครินทร์ แขวงและเขตสวนหลวง กทม. โดยสภาพศพของผู้ตายนั้นแห้งเป็นโครงกระดูก ลำคอมีสายไฟรัดคอ ยาวประมาณ 1 เมตร ปลายสายไฟขาดจากสายไฟที่ผูกกับราวบันไดชั้นสาม คาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว 4-5 ปี เมื่อตรวจสอบเพิ่มเติมพบจดหมายลาตาย แต่ข้อความเลือนลางจนไม่สามารถระบุว่าได้ว่าเป็นเรื่องอะไร

จากการสอบปากคำทราบว่า เสียชีวิตเป็นน้องชายเจ้าของบ้าน ไม่มีงานทำ ช่วงหลังมีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า พี่ชายผู้ตายมีฐานะดีอยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง โดยให้น้องชายมาอยู่บ้านหลังเกิดเหตุคนเดียว ก่อนขาดการติดต่อไปเมื่อประมาณ 4-5 ปีก่อนนั้น ผู้ตายบอกกับญาติพี่น้องว่า จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ จากนั้นก็ขาดการติดต่อไป ญาติพี่น้องแจ้งความคนหายไว้ที่ สน.คลองตัน เมื่อปี 2561

ในวันเกิดเหตุนั้น พี่ของผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน พร้อมช่าง เดินทางมาที่บ้านหลังเกิดเหตุ เพื่อปรับปรุงซ่อมแซมหลังปล่อยร้างมาหลายปี เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในบ้านก็ตกใจเพราะพบผู้เสียชีวิตที่เชิงบันได จึงคาดว่าจะเป็นน้องชายที่ขาดการติดต่อมาหลายปี ขณะที่เพื่อนบ้านให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนหน้านี้ 4-5 ปี ไม่ได้กลิ่นเหม็นของศพหรือสิ่งผิดสังเกตใดๆ

ขณะที่ พ.ต.ท.ปรีดา กล่าวถึงเหตุการณ์นี้ว่า บ้านที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยการงัดแงะหรือรื้อค้น ตรวจสอบทรัพย์สินไม่มีสูญหาย เบื้องต้นคาดว่า นายเอกกมล อาจเครียดปัญหาชีวิต หรือเครียดโรคประจำตัว จึงฆ่าตัวตาย ส่วนผ้าห่มที่ศพนอนทับอยู่นั้นคาดว่าตกหล่นอยู่ก่อนแล้ว เบื้องต้น ญาติผู้ตายไม่ติดใจการเสียชีวิต ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ดำเนินการส่งศพไปชั้นสูตรเพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป

สะเทือนใจ สาวโทรหาแฟนเก่า เจอชื่อบนมือถึงกับน้ำตาไหล

กลายเป็นเรื่องราวสุดปวดหัวใจ สาวโทรหาแฟนเก่า เลิกกันไป 5 ปีแล้ว เจอชื่อบนมือถือว่า “ที่รัก” ทำเอาน้ำตาไหล เป็นบทเรียนจะทำอะไรรีบทำ กลายเป็นเรื่องสุดสะเทือนใจหลังจากที่มีผู้ใช้ TikTok ชื่อ @rtbnadda โพสต์คลิปที่มีข้อความกำกับว่า “#ขอโทษ” โดยเธอได้ไปร่วมงานศพของแฟนเก่าที่เลิกคบกันมา 5 ปีแล้ว โดยเธอได้ตัดสินใจโทรเข้าหาเบอร์ของแฟนเก่า เพื่อรำลึกถึงเรื่องราวความหลัง ซึ่งเธอก็ต้องตกใจหลังจากที่เธอเจอว่าแฟนเก่าของเธอยังคงเมมเบอร์โทรศัพท์ของเธอว่า “ที่รัก” สถานะในมือถือก็ยังไม่เคยเปลี่ยน แม้จะเลิกกันไปแต่ไม่เคยลืมกัน ทำเอาสาวผู้โพสต์น้ำตาร่วง

หลังจากที่ชาวเน็ตได้เห็นคลิปดังกล่าวก็ต่างรู้สึกสะเทือนใจ และเข้ามาแบ่งปันประสบการณ์ที่คล้ายคลึงกัน อย่างที่ชาวเน็ตคนนึงเล่าว่า “แฟนเราตาย18ปีแล้วเบอร์โทรเขาแม่เขายังใช้อยู่เลยเราเลยโทรหาแม่เขาแทน” ขณะที่ชาวเน็ตอีกหลายคนก็พูดว่าถือเป็นบทเรียนชีวิต จะทำอะไรให้รีบทำ เพราะชีวิตคาดเดาไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

โหนกระแสวันนี้ ประเด็น ถูกรางวัลที่ 1 เมียหนีไปกับชู้ เมียลั่น เขาไม่ใช่ผัวดิฉัน ท้าไปดูทะเบียนสมรส ยืนยันไม่คืนเงินให้ เพราะเป็นเงินตามกฎหมาย จากกรณีที่ผัวถูกรางวัลที่ 1 ก่อนที่จะต้องเจอเรื่องราวสุดปวดเมื่อโอนเงินให้ภรรยาที่อยู่กินกันมา 26 ปี และมีลูกสามคน หอบเงินหนีไปอยู่กับชู้ สร้างความสงสารและกลายเป็นที่จับตามองจากประชาชน หลังจากที่ทางสามีถูกรางวัลที่ 1 เดินทางไปออกรายการโหนกระแสดังที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น

ทางสามีเล่าว่า เพื่อนสนิทของฝ่ายภรรยารู้ว่าฝั่งหญิงมีชายอื่นมาตลอด แต่ไม่กล้าบอกใคร เพราะไม่ใช่เรื่องของครอบครัวตน ฝ่ายภรรยาก็มาเล่าให้ตนฟังตลอดว่าเขามีผู้ชายคนไหนบ้าง คนนั้นเลิกไปแล้ว ให้เงินไปเท่านั้นเท่านี้ แล้วก็มามีคนใหม่ ผู้ชายส่วนใหญ่รู้จักในเฟซบุ๊ก โดยผู้ชายที่หนีไปกับภรรยานั้นเคยมางานทำบุญ ซึ่งทางภรรยาก็แนะนำว่าเป็นหลาน สามีก็ไม่ได้เอะใจ แต่ทางภรรยามาแอบบอกเพื่อนลับๆว่าคนนี้คือผู้ชายที่แอบคบลับๆ

ทว่าความพีคเกิดขึ้น เมื่อหนุ่ม กรรชัย พิธีกรรายการต่อสายตรงไปหาอดีตภรรยาของชายถูกรางวัลที่ 1 แต่เมียหนีไปกับชู้ โดยเธอบอกว่า ตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด ให้ไปเช็กได้เลยว่าชื่อของคนที่ไปขึ้นเงินที่กองสลากเป็นชื่อใคร แล้วเงินที่ได้มาก็เอาเข้าบัญชีของตนโดยตรง ไม่ได้เป็นการฝากเก็บอย่างที่อ้าง พร้อมย้ำว่า “เขาไม่ใช่ผัวดิฉัน” ทำเอาทุกคนช็อกกันไปตามๆกัน 

เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> เซ็กซี่บาคาร่า น้ำเต้าปูปลาออนไลน์ เว็บตรง100 ดัมมี่ออนไลน์ UFA666WIN